ที่มา

ธรรมสำหรับนักบริหาร

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

คุณธรรม จริยาธรรมของการเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติและสังคมโลก

พลเมืองที่ดีของสังคมจะต้องมีคุณธรรมและจริยธรรมเป็นหลักในการดำเนินชีวิต  ซึ่งจะช่วยทำให้สังคมเป็นสังคมทีมีความสงบสุขและเจริญก้าวหน้าได้ คุณธรรมและจริยธรรมที่สำคัญมีอยู่  8  ประการ  ดังนี้

     1. การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม  คุณธรรมข้อนี้เอื้ออำนวยประโยชน์ต่อสังคมเป็นอย่างยิ่งเพราะสังคมจะดำรงอยู่ได้  และสามารถพัฒนาให้มีความสมบูรณ์เจริญก้าวหน้าได้  ถ้าคนในสังคมยอมเสียสละประโยชน์ส่วนตน  เพื่อประโยชน์ส่วนรวมเสมอ

     2. การรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน  และเคารพในมติของเสียงส่วนมาก  คุณธรรมข้อนี้มีความสำคัญมากต่อสังคม เพราะสมาชิกในสังคมมักจะมีความคิดเห็นในปัญหาต่างๆของสังคม  แลแนวทางการแก้ไขปัญหาแตกต่างกัน  จึงจำเป็นที่จะต้องใช้เสียงข้างมากเพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหานั้นๆ  แต่ทั้งนี้เสียงส่วนมากก็จะต้องเคารพความคิกเห็นของเสียงส่วนน้อยและไม่ถือว่าเสียงส่วนน้อยเป็นฝ่ายผิด  จึงจะทำให้สังคมดำรงอยู่ได้อย่างสันติ

     3. การมีระเบียบวินัยและรับผิดชอบต่อหน้าที่  ถ้าสมาชิกในสังคมยึดมั่นในระเบียบวินัย  ควบคุมตนเองได้  ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น  และตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้  สังคมนั้นก็จะมีแต่ความสงบสุขและเจริญก้าวหน้า  ตัวอย่างเช่น  นักเรียนมีหน้าที่เรียนก็ตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด  ก็จะทำให้นักเรียนประสบความสำเร็จในการเรียน  หรือข้าราชการทำหน้าที่รับใช้ประชาชนอย่างดีที่สุด  ก็ย่อมจะทำให้ข้าราชการผู้นั้นประสบความสำเร็จในชีวิตราชการ  เป็นต้น

     4. ความซื่อสัตย์สุจริต  ถ้าสมาชิกในสังคมยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต  เช่น  ไม่ลักทรัพย์  ไม่เบียดบังทรัพย์สินของผู้อื่นมาเป็นของตน  หรือถ้าเป็นข้าราชการก็ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต  ไม่ทำการทุจริต  สังคมนั้นก็จะมีแต่ความสันติสุขและเจริญก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ

     5. ความกล้าหาญและเชื่อมั่นในตนเอง  สังคมทุกสังคมต้องการให้มีการแสดงความคิดเป็นในเชิงสร้างสรรค์  เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม  ดังนั้น  ถ้าสมาชิกในสังคมมีความกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์อยู่เสมอๆ  ก็จะป็นประโยชน์ต่อสังคมและเป็นแนวทางในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าได้

     6. ความสามัคคี  หมายถึง  ความรักใคร่กลมเกลียวและความร่วมมือกันทำงาน  เพือประโยชน์ส่วนรวม  ดังคำกล่าวที่ว่า  สามัคคี  คือ  พลัง ”  ดังนั้น  ถ้าประชาชนไทยมีวามสามัคคี  ไม่แตกแยก  ร่วมแรงร่วมใจทำงานเพื่อพัฒนาประเทศชาติ  ประเทศชาติก็จะมีแต่ความเข้มแข็งเป็นที่เคารพและเป็นที่เกรงขามของนานาประเทศ  รวมทั้งจะทำให้สถาบันประชาธิปไตยมีความมั่งคงตลอดไปด้วย

     7. ความละอายและเกรงกลัวในการกระทำชั่ว  ถ้าสมาชิกในสังคมมีความละอายและเกรงกลัวต่อการกระทำชั่วแล้ว  สิ่งไม่ดีไม่งามต่งๆ  ก็จะไม่เปิดขึ้นในสังคม  เช่น  ถ้านักการเมืองมีความซื่อสัตย์สุจริต  เห็นประโยชน์ของส่วนเป็นสำคัญ        มีความละอายและเกรงกลัวในการกระทำสิ่งที่ไม่ดีไม่งามต่างๆ  ก็จะทำให้ประชาชนมีความศรัทธาในตัวนักการเมือง       และในสถาบันการเมืองการปกครองมากขึ้น  อันจะยังผลให้การปกครองระบอบประชาธิปไตยดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

     8. การส่งเสริมให้คนดีปกครองบ้านเมือง  และควบคุมไม่ให้คนไม่ดีมีอำนาจระบอบการปกครองของประเทศจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น  เมื่อได้คนดีมีความรู้ความสามารถมาช่วยกันปกครองบ้านเมือง  ดังนั้น  ในการเลือกตั้งผู้แทน  ประชาชนควรเลือคนดีให้ไปทำหน้าที่แทนตน  เพราะถ้าเราได้ผู้แทนที่ดี  เราก็จะได้รัฐบาลที่ดี  อันจะยังผลให้การปกครองระบอบประชาธิปไตยสามารถอำนวยประโยชน์สุขให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม

     คุณธรรมและจริยธรรมของการเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติและสังคมโลก  ที่ได้กล่าวมาข้างต้นเป็นคุณธรรมและจริยธรรมที่สมาชิกของสังคมสามารถกระทำได้  โดยไม่ต้องอาศัยการฝึกฝนหรือทักษะใดๆ
     หากสมาชิกส่วนใหญ่ของสังคมสามารถกระทำได้ทั้ง  8  ประการ  ก็จะทำให้สังคมมีความสงบสุขและพัฒนาต่อไปได้อย่างยั่งยืน

ที่มาของบทความ : https://sites.google.com/site/30311natchanaporn/4-khunthrrm-criya-thrrm-khxng-kar-pen-phlmeuxng-di-khxng-prathes-chati-laea-sangkhm-lok

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น